แปลงเพศ

ศัลยกรรมแปลงเพศ ผ่าตัดแปลงเพศ ศัลยกรรมชายเป็นหญิง โดยโรงพยาบาลเอเซีย

การศัลกรรมแปลงเพศ(Sex change surgery) เป็นการศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนเพศให้กับผู้ที่มีภาวะทางเพศของร่างกายและจิตใจขัดแย้งกันทางการแพทย์ คือ ร่างกายเป็นผู้ชายแต่จิตใจและความรับรู้ทางเพศผู้หญิง หรือร่างกายเป็นผู้หญิงแต่มีจิตใจความรู้สึกเป็นชาย  โดยการผ่าตัดแปลงเพศถือได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการศัลยกรรมเพื่อแปลงเพศโดยสมบูรณ์ กล่าวคือ จากชายกลายเป็นหญิงก็มักจะผ่านการเสริมจมูก และการเสริมหน้าอก มาแล้ว เพื่อเรียนรู้การพร้อมที่จะเป็นเพศหญิง

ผ่าตัดแปลงเพศ

คนไข้ที่จะเข้ารับการรักษาเพื่อการแปลงเพศ จะต้องได้รับการประเมินทางด้านจิตใจและมีความเข้าใจในความต้องการของตนเองอย่างแท้จริงดังนั้นก่อนการเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
การผ่าตัดแปลงเพศเป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนสูง จึงต้องมีความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลเป็นที่พึงพอใจ  โดยสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การผ่าตัดประสบความสำเร็จประกอบด้วย

ทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์

  • จิตแพทย์ เพื่อการประเมินสภาวะจิตใจคนไข้ก่อนการผ่าตัด
  • วิสัญญีแพทย์ การระงับความรู้สึกทั้งขณะการผ่าตัดและหลังผ่าตัดโดยซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการดมยาสลบ
  • อายุรแพทย์หัวใจ ประเมินสภาวะทางร่างกาย โลหิต หัวใจและปอดตลอดจนโรคร่วมอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการผ่าตัด
  • ศัลยแพทย์ตกแต่ง การผ่าตัดตกแต่งบริเวณอวัยวะเพศซึ่งเป็นงานที่ซับซ้อนและใช้ประสบการณ์สูงผู้ทำการผ่าตัดต้องเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความรู้ความชำนาญในการผ่าตัดตกแต่งเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดที่ดีและปลอดภัยสูงสุด

โรงพยาบาลได้มาตรฐาน

โรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศได้ ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขในการเปิดเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และได้รับการรับรองความปลอดภัยมาตรฐานสากลระดับโลก เช่น JCI (Joint Commission International Accreditation Standard for Hospital จากประเทศสหรัฐอเมริกา ) จึงจะมั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัย

ผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะแปลงเพศจากชายเป็นหญิง มีดังนี้

  • ผ่านการประเมินภาวะจิตใจและต้องได้รับใบรับรองจากจิตแพทย์ ว่าอยู่ภาวะที่ปกติที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศได้
  • เคยใช้ชีวิตแบบผู้หญิงมาไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีความรู้สึกเป็นผู้หญิงมานานแล้ว
  • ต้องได้รับฮอร์โมนเพศหญิงอย่างต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • ผู้ผ่าตัดแปลงเพศต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ถ้าอายุไม่ถึง 18 ปี ต้องให้ บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ที่ ถูกต้องตามกฎหมายอนุญาต จึงจะผ่าตัดได้
  • มีความรู้สึกว่ารังเกียจอวัยวะเพศของตนเอง คิดว่าเป็นส่วนเกิน ไม่อยากมี
  • ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถทำการผ่าตัดใหญ่ได้ ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด

เทคนิคการผ่าตัดแปลงเพศ

  • มีการใช้ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • ทำการผ่าตัดโดยการสร้างช่องคลอดใหม่โดยเจาะบริเวณกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างทวารหนักกับท่อปัสสาวะ โดยมีความลึกประมาณ 4-7 นิ้ว
  • นำผิวหนังบริเวณองคชาตเดิมหรือจากถุงอัณฑะหรือลำไส้ เพื่อไปสร้างเป็นผนังช่องคลอดใหม่เกิดขึ้น เหมือนผู้หญิง โดยการผ่าตัดเพื่อจะทำให้ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดได้รับช่องคลอดที่ลึกที่สุด เท่าที่ผิวหนังของคนไข้จะทำได้
  • มีการเก็บเส้นประสาทรับความรู้สึกทางเพศ เพื่อเตรียมทำปุ่มรับความรู้สึกทางเพศ (Clitoris) แล้วตัดแกนองคชาตออก
  • มีการตัดท่อปัสสาวะเพศชายให้สั้นลง แล้วตกแต่งให้สามารถที่จะปัสสาวะพุ่งลงเหมือนเพศหญิง
  • ตกแต่งบริเวณภายนอกได้แก่ แคมนอก แคมใน ท่อปัสสาวะและปุ่มรับความรู้สึกทางเพศ (Clitoris) ให้สวยงามเหมือนอวัยวะเพศหญิงที่สมบรูณ์ และยังคงมีความรู้สึกทางเพศได้อยู่เหมือนเดิม


การดูแลหลังการผ่าตัดแปลงเพศ

หลังจากคนไข้ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว คนไข้จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ประมาณ 6-10 คืน หลังจากนั้นสิ่งสำคัญคือ คนไข้ต้องมาการดูแลขยายช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ Dilator ที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อรักษาความกว้างและเพิ่มความลึกให้คงที่ควรหมั่นทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีโดยประมาณ งดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน มาพบศัลยแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลการผ่าตัดที่ได้สมบูรณ์และสวยงามใกล้เคียงธรรมชาติ

ความรู้เกี่ยวกับการแปลงเพศ จากผู้ชายเป็นผู้หญิง กับความรู้สึกจากน้องเนิสและน้องไฟเตอร์…

ควรมีการการติดตามผลอย่างต่อเนื่องภายหลังการผ่าตัดต้องมีความสะดวกในการเข้ารับบริการภายหลังการผ่าตัดเป็นอย่างดีและต้องมีการดูแลต่อเนื่องเรื่องการขยายช่องคลอด และ มีการใช้ยาฮอร์โมนร่วมด้วยเพื่อให้มีฮอร์โมนของเพศหญิงอย่างสมบูรณ์

รีวิวแปลงเพศ